Logo
  • About US
    • Home
    • Student Chapter
    • Contact
    • Annual Report
  • Membership
    • Member Benefits
    • Corperate
  • Events
    • Upcoming Event
    • Past Event
      • TIChE
        • TIChE2022
        • TIChE 2023
        • TIChE 2024
        • TIChE2025
      • TNChE
        • TNChE2022
        • TNChE2023
        • TNChE2024
        • TNChE2025
    • News & Announcement
      • Design Competition
      • Innovation Idea Challenge
  • Communities
  • Knowledge Center
    • TIChE Credential
    • Academy
    • Articles
  • TIChE Awards
    • TIChE Award 2568
    • Hall of Fame
    • Award
  • 07/03/2022 by Macross
  • Publications

พัฒนาการของโรงงานนำร่อง Part 2 – รวม 8 ข้อเด็ดๆ ของโรงงานนำร่องใน “ยุคใหม่” ฮาวทู Move on อย่างไร ไม่ให้ตกม้าตายจากของเดิม !!!

โดย บำรุง สูงเนิน

HIGHLIGHTS

  • ขนาดของโรงงานนำร่องมีขนาดลดลงเนื่องจากอุปกรณ์มีขนาดลดลง จำนวนข้อมูลที่ต้องการน้อยลง ถูกดำเนินการในระยะเวลาที่สั้นลง จึงทำให้สามารถถูกสร้างได้ในราคาที่ถูกกว่า
  • มีการประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ในหลาย ๆ มิติ เช่น เพื่อทดแทนการทดลองบางส่วน ตลอดจนระบบเครื่องวัดและวิเคราะห์ และระบบความปลอดภัย เป็นต้น
  • สามารถประยุกต์ใช้ระบบทันสมัยในโรงงานขนาดใหญ่กับโรงงานนำร่องได้ดี เช่น การบริหารการเปลี่ยนแปลง (Management of change)

ข้อที่หนึ่ง: โรงงานนำร่องมีขนาดเล็กลง

ในปัจจุบัน โรงงานนำร่องมีขนาดเล็กลง โดยยกเว้นระดับโรงงานสาธิต (Demonstration plant) เท่านั้นที่ยังคงมีขนาดค่อนข้างใหญ่ เพราะว่าการที่เราจะทำเทคโนโลยีใหม่ที่มีองค์ความรู้จำกัดก็ยังคงมีความจำเป็นต้องมีการผลิตค่อนข้างมากเพื่อตอบสนองจุดประสงค์ที่หลากหลาย  โรงงานนำร่องในสมัยนี้สามารถถูกสร้างขึ้นได้ภายในห้องปฏิบัติการหรือแม้กระทั่งภายใน Hood เป็นต้น  มากกว่านั้นยังถูกออกแบบให้สามารถทำการทดลองพร้อม ๆ กันในเวลาเดียวกัน  ด้วยขนาดที่เล็กลง ยังสามารถทำให้มีการปรับเปลี่ยนทั้งหน่วยได้ง่ายดายขึ้น ต้องการพื้นที่น้อยลง อุปกรณ์น้อยชิ้นลง และจำนวนคนทำงานที่น้อยลงเช่นกัน

ข้อที่สอง: มีการประยุกต์ใช้การคำนวนขั้นสูงทดแทนการทดลองจริง

ผลจากการที่โลกเข้าสู่ยุกต์ที่มีความสามารถที่สูงในการคำนวณโดยใช้คอมพิวเตอร์ที่มีศักยภาพสูงสามารถนำมาจำลองพฤฒิกรรม (simulate) เพื่อเป็นต้นแบบหรือแทนการทดลองบางส่วน  เครื่องมือดังกล่าวที่นิยมใช้กันมีตัวอย่างเช่น การใช้พลศาสตร์ของไหลเชิงคำนวณ (Computational fluid dynamics) เพื่อจำลองปรากฏการ์ณต่างๆ ที่สนใจในรูปแบบสามมิติ (3-D Modelling) ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีศักยภาพสูงพอที่จะทดแทนการทดลองบางส่วนที่จำเป็นในโรงงานนำร่อง และกลายเป็นว่าการทดลองต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในโรงงานนำร่องยังกลับถูกใช้ในการปรับปรุงผลการคำนวนที่ได้จากการใช้โมเดลคณิตศาสตร์ให้มีความน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น  ด้วยเหตุนี้นอกจากสามารถลดขนาดของโรงงานนำร่องได้แล้ว ก็ยังช่วยลดทั้งจำนวนการทดลองที่จำเป็นต้องทำ จำนวนอุปกรณ์ คนดำเนินงาน เวลา และเงินลงทุน

ข้อที่สาม: ประยุกต์ใช้ระบบอัตโนมัติในโรงงานนำร่อง

เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีสมรรถนะความเร็วสูงขึ้นพร้อมกับราคาที่ถูกลง ทำให้ระบบต่าง ๆ ในโรงงานนำร่องสามารถถูกออกแบบในเชิงอัตโนมัติได้เกือบทั้งหมด อีกทั้งยังสามารถใช้เป็นแบบสแตนด์อโลนคอมพิวเตอร์ (Stand-alone personal computers) หรือ การควบคุมตรรกะเชิงโปรแกรม (Programmable logic controller)  นอกจากนี้ระบบการเก็บข้อมูลยังคงนิยมใช้เป็นแบบอัตโนมัติที่เชื่อมต่อโดยตรงกับจุดเก็บตัวอย่างต่างๆ เพื่อการวิเคราะห์ ผลที่ดีของตัวอย่างต่าง ๆที่ถูกเก็บเป็นข้อมูลเนื่องจากการทดลองในโรงงานนำร่องมีความเสถียรสูง

ข้อที่สี่: ไม่จำเป็นต้องทำการทดลองต่อเนื่องยาว ๆ ในทุก ๆ หน่วยของโรงงานนำร่อง

ทุกวันนี้มีแค่หน่วยการทดลองจำนวนน้อยเท่านั้นที่จำเป็นต้องดำเนินการต่อเนื่องยาวๆ  โรงงานนำร่องโดยส่วนใหญ่นั้นจะถูกดำเนินงานยาวเป็นบางช่วงเวลาเท่านั้น เช่น ข้ามคืนหรือสัปดาห์ โดยไม่ต้องมีหรือมีเพียงผู้ปฏิบัติการอยู่เฝ้าจำนวนน้อยเท่านั้น  จากเดิมที่พื้นที่นั้นเคยเป็นหน่วยวิจัยมีคนขวักไขว่ กลับกลายเป็นมีหน่วยอุปกรณ์ที่เดินเครื่องจำนวนมากพร้อมกับมีจำนวนคนทำงานที่เบาบางลง

ข้อที่ห้า: มีการวางแผนการทดลองอย่างรัดกุม

จำนวนการทดลองนั้นมีผลอย่างมากต่อค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในโรงงานนำร่องเนื่องจากเป็นตัวกำหนดปริมาณดำเนินงาน เช่น จำนวนค่าสาธารณูปโภค (Utilities cost) วัตถุดิบ (Raw material) เป็นต้น ดังนั้นจำนวนการทดลองจึงต้องถูกวางแผนและออกแบบอย่างระมัดระวังเพื่อลดทั้งจำนวนการดำเนินการ ข้อมูลการทดลองที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้ ข้อมูลที่กระจัดกระจายเกินไป ตลอดจนหลีกเลี่ยงการทดลองที่จำต้องยกเลิกในภายหลัง ซึ่งนำไปสู่ค่าใช้จ่ายที่บานปลายไม่รู้จบ

ข้อที่หก: ทำระบบความปลอดภัยให้เป็นงานกิจวัตร

สามารถใช้วิธีทั่วไปในการดำเนินงานโรงงานนำร่องโดยการประยุกต์ระบบความปลอยภัยในระดับอุตสาหกรรมมาใช้ในโรงงานนำร่อง  การบริหารการเปลี่ยนแปลง (Management of change) จะยังคงเป็นเครื่องมือที่ทำให้แน่ใจว่าทุก ๆ การปรับแต่งหรือการเปลี่ยนแปลงในโรงงานนำร่องได้รับการถูกตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนและถูกกระทำอย่างปลอดภัย  ระบบความปลอดภัยจำต้องทำกันแพร่หลายมากขึ้น ถึงแม้ว่าจะต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติม เนื่องจากต้องคำนึงถึงผลกระทบจากความล้มเหลวที่อาจเกิดขึ้น (Potential failure) ของคอมพิวเตอร์และระบบที่ใช้ไมโครโปรเซสเซอร์  แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะได้รับการยอมรับในระดับโรงงานขนาดใหญ่ แต่ประเด็นนี้ยังคงเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างต่อเนื่องสำหรับระดับโรงงานนำร่อง

ข้อที่เจ็ด: เครื่องวัดมีความซับซ้อนและน่าเชื่อถือ

เครื่องมือวัดส่วนใหญ่สามารถถูกเข้าถึงได้ผ่านเส้นทางข้อมูลหลักและสามารถถูกปรับแต่ง สอบเทียบ หรือตรวจสอบจากระยะไกลได้ ณ ทุกจุดที่เชื่อมต่อสาย ด้วยเหตุนี้ ตู้เครื่องมือวัด (Dedicated instrument cabinets) อาจจะไม่จำเป็นหรือมีขนาดลดลงได้ อีกทั้งยังส่งผลให้ห้องศูนย์กลางการควบคุมมีขนาดเล็กลงจนดูเหมือนเป็นห้องคอมพิวเตอร์ซะมากกว่า  ส่วนเครื่องมือที่ใช้สำหรับการตรวจสอบวินิจฉัย (Diagnostic tool) เครื่องมือวัดต่าง ๆ เช่น เครื่องมือสอบเทียบ อัตราการไหล อุณหภูมิ ความดัน นั้นราคาก็ไม่แพง พกพาได้สะดวก ใช้งานง่ายและมีความแม่นยำทันสมัย

ข้อที่แปด: อุปกรณ์วิเคราะห์ที่เป็นระบบออนไลน์นั้นกลับกลายเป็นเรื่องปกติ

การเก็บวิเคราะห์ตัวอย่างแบบออนไลน์ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญเช่นเดิม แต่ก็ยังสามารถถูกลดจำนวนลงจนเหลือการวิเคราะห์พิเศษแบบครั้งคราวแทน (Occasional specialty analysis) หรืออาจเพิ่มขึ้นได้เช่นกันตามความเหมาะสม  ดังนั้นความต้องการในการวัดและวิเคราะห์นั้นแทบจะไม่ส่งผลต่อขนาดของหน่วยการทดลองอีกต่อไป และช่วยลดความปวดหัวในเรื่องการจำกัดของเสีย


ABOUT THE AUTHOR

บำรุง สูงเนิน

Content Leader ของสมาคม TIChE

Publications

Post navigation

prev article
next article
Logo

Society Worldwide

  • Hydrocarbonprocessing
  • AIChE
  • ACS
  • Chemeng
  • Icheme
  • Gasprocessingnews
  • H2-tech
© 2019 TIChE. All rights reserved.