โดย วิรุฬห์ ตัณฑะพานิชกุล
HIGHLIGHTS (Summary)
ความจริงคือ คุณสังเกตได้ง่ายๆโดยดูสมการตรง laminar zone (Re < 2000) ว่าถ้าสมการคือ f = 64/Re คือ Darcy แต่ถ้าเป็น f = 16/Re คือ Fanning และถ้าคุณ ใช้ Darcy คุณต้องใช้สมการ (1.1) แต่ถ้าคุณใช้ Fanning ต้องใช้สมการ (1.2) เท่านั้น
1.1) dP = f(L/D)(density*v2/2) ต้องใช้ Darcy (Moody) friction factor
1.2) dP = 4*f(L/D)(density*v2/2) ต้องใช้ Fanning friction factor
2.1) dP < 10% of inlet P: ใช้ค่า density ของ inlet ได้เลย
2.2) 10% < dP < 40% of inlet P: ใช้ค่า density ที่เป็น average inlet & outlet
2.3) dP > 40% of inlet P: เปิดหนังสือหาสมการ adiabatic case (ท่อที่หุ้มฉนวนและสั้นๆ เช่นในกระบวนการผลิต) หรือ isothermal case (ท่อที่ไม่หุ้มฉนวนและยาวๆเช่น ท่อส่งก๊าซธรรมชาติ) หรือคำนวณ excel แบ่ง zone แล้วเปลี่ยนdensityตามzoneก็ได้นะ เราช่างฉลาดจุงเบย!!
นอกจากนี้ยังมีเคล็ดลับประเมิน pressure drop (dP) เร็วขั้นเทพที่วิศวกรมืออาชีพควรต้องทราบ
ผมถามวิศวกรง่ายๆว่า ถ้าผมมีท่อยาวเส้นนึงที่มีของเหลวไหลผ่าน 10 T/hr และมี dP1 = 1 bar ถ้าผมลดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน (d)ลงครึ่งนึง โดยอัตราการไหลเท่าเดิม ผมควรจะเห็น dP2 = ?? เชื่อไหมว่าวิศวกรไทย 90% ตอบคำถามง่ายๆนี้ไม่ได้?
การลดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางภายในของท่อ D ลงครึ่งนึง (D2 = 0.5*D1) ทำให้ dP2 เพิ่มขึ้นประมาณเท่ากับ (D1/D2)^5 = (1/0.5)^5 = 32 เท่า!! นั่นหมายความว่า dP2 = 1 bar x 32 = 32 bar!!
ต้องออกตัวไว้ก่อนว่า ถ้าคำนวณให้แม่นยำจริงๆ ตัวเลขจะไม่ใช่ 32 เท่าเป๊ะ เพราะมี effect ของ friction factor ที่เปลี่ยนไปเวลาเปลี่ยนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางท่อลง แต่ที่แน่ๆคือเส้นผ่านศูนย์กลางมีผลเยอะมากจริงๆจนน่าตกใจ
ผมตอบคำถามนี้ได้ในเวลาแค่ 5 วินาที เพราะผมรู้เคล็ดลับการ prorate pressure drop เพราะผมรู้ว่า dP แปรผันตรงกับ L และ Q^2 และ 1/d^5 ตามสมการที่แปลงมาในรูปของ flow rate แล้วดังในสมการที่แสดงต่อไปนี้
ABOUT THE AUTHOR
วิรุฬห์ ตัณฑะพานิชกุล
ที่ปรึกษาสมาคม TIChE