Logo
  • About US
    • Home
    • Student Chapter
    • Contact
    • Annual Report
  • Membership
    • Member Benefits
    • Corperate
  • Events
    • Upcoming Event
    • Past Event
      • TIChE
        • TIChE2022
        • TIChE 2023
        • TIChE 2024
        • TIChE2025
      • TNChE
        • TNChE2022
        • TNChE2023
        • TNChE2024
        • TNChE2025
    • News & Announcement
      • Design Competition
      • Innovation Idea Challenge
  • Communities
  • Knowledge Center
    • TIChE Credential
    • Academy
    • Articles
  • TIChE Awards
    • TIChE Award 2568
    • Hall of Fame
    • Award
  • 07/03/2022 by Macross
  • Publications

พัฒนาเทคโนโลยี “แทบตาย” แต่ทำไม “เจ๊ง” ทุกที เราทำอะไรผิดไป – Part 2 ?

โดย บำรุง สูงเนิน

HIGHLIGHTS

  • เป้าหมายที่จับต้องได้เป็นสิ่งที่สำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยี ต้องถูกทำขึ้นตั้งแต่ขั้นตอนแรกของโปรเจ๊ก
  • การวิเคราะห์ความอ่อนไหวสมควรถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มโอกาสสำเร็จ
  • ผลลัพธ์ที่ได้จะบ่งบอกแนวโน้มของหนทางที่ถูกต้องและสามารถลดขนาดของหุบเขาเแห่งความตายได้

ก้าวที่หนึ่ง: กำหนดโจทย์และเป้าหมายที่จับต้องได้

เพื่อที่จะทำให้แน่ใจว่าโปรเจ๊กที่กำลังถูกพัฒนามีโอกาสสำเร็จสูงขึ้น การกำหนดโจทย์และเป้าหมายที่จับต้องได้ตั้งแต่ขั้นตอนแรกของโปรเจ๊กนั้น เป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ โดยปกติแล้วเป้าหมายจะถูกกำหนดในเชิงรูปแบบของกำไรหรือรายได้กลับเข้าสู่องค์กร จุดที่สำคัญคือ เราจำเป็นต้องแปรความผลกำไรให้นำไปสู่เป้าหมายในเชิงปริมาณที่ระบุและวัดได้ เช่น เงินลงทุนมากสุดที่เป็นไปได้ เป็นต้น เพื่อสร้างกรอบที่ชัดเจนในขั้นตอนต่อไป

ก้าวที่สอง: วิเคราะห์ความอ่อนไหว

หลักจากกำหนดกรอบอย่างชัดเจนในข้อแรก การนำการวิเคราะห์ความอ่อนไหว (Sensitivity analysis) มาประยุกต์ใช้จะทำให้สามารถระบุถึงพื้นที่ความเป็นไปได้เพื่อที่ทำให้โปรเจ๊กมีความสำเร็จ โดยขั้นตอนนี้จำเป็นต้องมีการใช้ข้อมูลเบื้องต้นจากการทดลองในระดับห้องปฏิบัติการเป็นจุดเริ่มต้น และใช้ข้อมูลเชิงวิศวกรรมที่มีความเชื่อมั่นเพียงพอร่วมในการวิเคราะห์ เช่น การออกแบบที่สามารถใช้งานได้ในระดับโรงงานพาณิชย์

อ้างอิง: https://www.linkedin.com/pulse/death-valley-brand-new-technology-development-bamrung-sungnoen/

ก้าวที่สุดท้าย: ผลลัพท์ทั้งหมดที่เป็นไปได้เพื่อที่ทำให้โปรเจ๊กสำเร็จ

ผลลัพท์สุดท้ายเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถช่วยกำหนดกรอบอย่างชัดเจนว่าในช่วงเริ่มแรกของโปรเจ๊กลักษณะความเป็นไปได้ควรจะแสดงผลออกมาในแนวทางใด ลงทุนในลักษณะไหน ต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ในแต่ละขั้นตอน

ตัวอย่างกรณีศึกษา: การพัฒนาตัวเร่งปฏิกิริยา

เราสามารถจะกำหนดลักษณะสมบัติของตัวเร่งปฏิกิริยาที่เป็นไปได้ในเชิงพาณิชย์โดยอาศัยการผ่านกระบวนการข้างต้นได้ดังนี้ ก้าวแรกทางนักวิจัยทำการสกรีนหาความเป็นไปได้เบื้องต้นของลักษณะสมบัติตัวเร่งปฏิกิริยาในระดับห้องปฏิบัติการ ควบคู่กับทีมงานที่กำหนดทิศทางธุรกิจตลอดจนผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรมขยายขนาดถึงโรงงานพาณิชย์ จากนั้นนำการวิเคราะห์ความอ่อนไหวมาใช้เพื่อหาเงื่อนไขความเป็นไปได้ต่างๆโดยที่โครงการยังอยู่ในกรอบของเงินลงทุนเพื่อให้การพัฒนาได้กำไรที่น่าพอใจคืนสู่บริษัท สุดท้ายผลที่ออกมาได้คือลักษณะสมบัติที่เป็นไปได้ของตัวเร่งปฏิกิริยาในเชิงเคมี เชิงกายภาพ ในระดับโรงงานพาณิชย์จะถูกกำหนดและส่งกลับไปกำหนดกรอบความเป็นไปได้ในขณะที่ทำการพัฒนาระดับห้องปฏิบัติการ


ABOUT THE AUTHOR

บำรุง สูงเนิน

Content Leader ของสมาคม TIChE


อ้างอิง (Reference)

  • https://www.linkedin.com/pulse/how-conquer-loop-death-valley-bamrung-sungnoen/
  • Bamrung S., et al., “Speed Up the Development of New Commercial Adsorbent – Part 1”, April 2018, Hydrocarbon Processing Magazine (US).
  • Bamrung S., et al., “Speed Up the Development of New Commercial Adsorbent – Part 2”, May 2018, Hydrocarbon Processing Magazine (US)
Publications

Post navigation

prev article
next article
Logo

Society Worldwide

  • Hydrocarbonprocessing
  • AIChE
  • ACS
  • Chemeng
  • Icheme
  • Gasprocessingnews
  • H2-tech
© 2019 TIChE. All rights reserved.